วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สิบปีที่รอคอย..ประสบการณ์ที่ผันผ่าน กับกาลเวลาที่แสนเศร้า

สิบปีที่รอคอย..ประสบการณ์ที่ผันผ่าน กับกาลเวลาที่แสนเศร้า
หนูมีหลายกล่องเลยค่ะ..บนโต๊ะทำงาน ข้างโต๊ะทำงาน ใต้โต๊ะทำงาน บนหลังตู้เก็บของ มี "กล่อง" กระดาษทั้งกล่องของขวัญ ลังแม่โขง ลังหงส์ทอง ลังเบียร์ กล่องกระดาษเอสี่..ทุกลังทุกกล่องผูกรัดด้วยเชือกฟางอย่างแน่นหนา..ด้วยความสงสัยจึงถามเธอว่า..# เก็บสะสมอะไรไว้นักหนาเต็มห้องไปหมด ทำไม่ไม่คัดไปทิ้งเสียบ้างล่ะภา ? # ของมีค่าทั้งนั้น หนูทิ้งไม่ลงหรอกค่ะ เคยเปิดมาดูพอจะทิ้วก็ทำใจไม่ได้ ทิ้งไม่ลงจริงๆค่ะ อาจารย์ณัฐฐ์..#แต่มันผิดหลัก 5ส ที่เราไปอบรมมานะ..ผมแย้ง # หนูขอละอาจารย์ ขอเพิ่มอีก ส. นึงละกัน # ส.อะไร ?# ส.สะสม สะสมของมีคุณค่าค่ะอาจารย์ # ตามใจ แต่ผมสงสัยจริงๆว่าภาใส่อะไรทึ่ว่ามีคุณค่าไว้ในนั้นตั้งหลายกล่อง?#

ทุกกล่องมีของเหมือนๆ กันอยู่ 3 อย่างค่ะอาจารย์#อ้าวถ้างั้นทำไม่ไม่คัดเลือกที่มันเหมือนๆ กันไว้เป็นตัวแทนอย่างละชิ้นล่ะ?# มันเหมือนกันก็จริง แต่ทุกชิ้นมีค่ามากสำหรับหนู หนูไม่ทิ้งมันหรอกค่ะ..!!#ทิ้งมั่งเหอะภา ตัดใจบ้าง มันรกห้อง..ผมหยิบมากล่องนึง ทำท่าจะโยนออกไปนอกห้อง..#

ภาวิ่งเข้ามาคว้าลังแม่โขงในมือผม แล้วกอดไว้แน่น พร้อมกับคร่ำครวญ..อาจารย์อย่าทิ้ง หนูขอร้องค่ะ..พลางน้ำตาไหลอาบแก้ม สะอึกสะอื้น # ผมใจอ่อนลงทันที..เอาละๆๆ ไม่ทิ้งก็ได้ แต่ขอเปิดดูหน่อยว่ามันมีอะไรอยู่ในกล่องพวกนี้ ถึงได้หวงนักหวงหนา..แกะให้ดูหน่อยภา#

ภาค่อยๆ แกะเชือกฟางสีแดงออก ฝาลังแม่โขงคร่ำคร่าเกือบขาดวิ่น ข้างกล่องเขียนด้วยปากกาเคมีสีน้ำเงินว่า..15 ธันวาคม 2547..ภาเล่าไปพลาง..อาจารย์ณัฐฐ์รู้มั๊ย เวลาหนูเหนื่อยมากๆ ท้อใจมากๆ หนูจะล็อกประตู เปิดดูของในกล่องนี้ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แล้วหนูจะมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมาทุกครั้งเลย..# ฝากล่องเปิดออก ในนั้นมีแต่กระดาษโน้ต การ์ดอวยพร ซองจดหมาย ทุกอย่างซีดจางเพราะเก่าเก็บ..ภาหวงมั๊ยผมขออ่านดูสักแผ่นนึง?# อ่านเถอะค่ะอาจารย์#
ผมสุ่มหยิบกระดาษจดหมายน้อย ขึ้นมาแผ่นนึงอ่านข้อความ.."ขอบคุณมากนะภา..พี่ไม่รู้จะตอบแทนภาอย่างไรดีถึงจะสมกับความดี ความมีน้ำใจของภา..ที่พี่จบปริญญาโทนิเทศศาสตร์ มสธ. มาได้ ก็เพราะความช่วยเหลือในการติดต่อประสานงานของภาทุกอย่าง ทั้งเตือนให้แต่ลงทะเบียน ตามมาเข้าสัมมนา ตรวจเล่มจัดหน้าจัดรูปแบบวิทยานิพนธ์ นัดสอบปกป้อง แก้ไข จนเสร็จ แม้กระทั่งโทร.ตามให้พี่มาซ้อมรับปริญญา พี่ทำงานชายแดนใต้ ไม่มีเวลาว่างตรงกับเพื่อน หากไม่ได้ภาพี่คงไม่จบโท..ขอบคุณเป็นที่สุดนะภา คนดีของทุกคน..ลงชื่อ พี่เอก" ..ผมอ่านด้วยความประทับใจทั้งต่อนักศึกษาและต่อภา..#

ผมลองสุ่มหยิบกระดาษโน้ตเล็กๆสีเหลืองขึ้นมาอีกแผ่นนึง..ภา นี่มันลายมือภาเองนี่..ผมท้วง# ใช่ค่ะลายมือหนูเอง พี่เค้าโทรศัพท์มา หนูจดไว้ค่ะ# ผมเริ่มอ่าน..ภาคะ พี่คิดถึงภาค่ะ พี่ขอบคุณภามากนะคะ ที่เป็นธุระทุกอย่างให้พี่ พี่มีวันนี้ได้เพราะภาช่วยประสานงานให้ทุกอย่าง พี่ไม่รู้จะตอบแทนภาอย่างไรดี ขอให้พระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองป้องกันภา ขอให้ภามีความเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในชีวิตตลอดไปนะคะ..พี่อ้อ #

ผมอ่านถึงตอนนี้ ภานั่งร่ำไห้สะอึกสะอื้น น้ำตานองหน้า..ร้องไห้ทำไมภา? ..หนูซาบซึ้งใจใจค่ะอาจารย์ณัฐฐ์..สิบปีแล้วค่ะที่หนูสะสม..คำขอบคุณ..คำยกย่องชื่นชม..คำอวยพร..เหล่านี้ไว้มากมายอย่างที่อาจารย์เห็นนี่แหละค่ะ..# ป่านนี้พี่ๆเค้าคงสุขสบายกันไปหมดแล้วละ พี่บางคนได้เลื่อนเป็นผู้จัดการฝ่าย บางคนได้เงินเดือนเพิ่มเป็น 8 หมื่น พี่บางคนกำลังจะได้เป็นนายพล..ส่วนหนูๆๆๆ ภาสะอื้น #

ส่วนหนูเป็นยังไงภา? # หนูก็ยังเป็นลูกจ้างประจำวุฒิปริญญาตรีกินเงินเดือนไม่ถึงสองหมื่นแหละค่ะ..# แต่หนูได้อย่างอื่นที่มีค่ามากกว่าค่ะ #อะไรเหรอภาที่ว่ามีค่าๆ # หนูได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีๆ จากพี่ๆ เกือบพันคน แล้วก็ได้สัมผัสประสบการณ์ทีีไม่ดีจากพี่ๆ หลายสิบคน..แต่หนูเลือกจดจำเฉพาะสิ่งที่ดีๆ เท่านั้นค่ะ..

คำขอบคุณที่หนูจดใส่กระดาษไว้เป็นลัง หากหนูเอาไปชั่งกิโลขายคงได้เงินไม่กี่ร้อยบาท..แต่หนูเก็บไว้เป็นสิ่งเตือนใจตัวเอง ให้ทำความดี เป็นกำลังใจ ไม่ให้ท้อค่ะ..#อาจารย์รูแล้วใช่มั๊ยคะว่าของ 3 อย่างที่หนูเก็บไว้คืออะไร?#

ผมอ่านใจภา..# หนึ่ง ประสบการณ์ที่ดีที่ได้เรียนรู้จากการสัมผัสผู้คนนับพัน สอง คุณค่าแห่งความดีงามที่ภาได้ทำไปทั้งหมดเป็นกำลังใจมห้ตัวเอง และ สาม การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ คือการเรียนปริญญาโท

ใช่แล้วค่ะอาจารย์ณัฐฐ์..หนูทำไปเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เป็นไร หนูภูมิใจที่ได้ทำค่ะ..ขอเพียงอย่างเดียวคือ..ขอให้พี่ๆ เรียนให้ได้ความรู้กันมากๆ เรียนกันให้จริงจัง เรียนกันให้เต็มที่..เพราะหนูๆๆ# อะไรเหรอภา# หนูเองก็อยากเรียนโทตั้งแต่ปี 2550 แล้ว แต่หนูไม่มีโอกาสเรียน..ตอนนี้ก็รุ่น 10 แล้ว..!!

หนูมีความสุขมากที่เห็นพี่ๆ เค้าตั้งใจเรียนกัน..มันชดเชยความรู้สึกในจิตใต้สำนึกของหนู..เหมือนกับทฤษฎีอะไรนะ..อือม์ ทฤษฎีการสื่อสารเพื่อทดแทน (Displacement) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสารเพื่อการชดเชย (Sublimation) ในสิ่งที่หนูไม่มีีโอกาสได้ทำค่ะ..#

ฟังภาเล่ามาถึงตอนนี้..น้ำตาของผมซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว..

ณัฐฐ์วัฒน์ สุทธิโยธิน
21 มิถุนายน 2556

1 ความคิดเห็น:

  1. วันนี้ผมนั่งนึกถึงเรื่องที่น้องภาได้ทำสิ่งต่างๆให้ตั้งแต่สมัยเรียนรุ่น ๑ จนถึงได้มาเรียนรุ่น ๑๐ ช่างบังเอิญจริงแท้ที่อาจารย์เขียนเรื่องน้องภาให้อ่านในวันนี้ครับ

    ตอบลบ