สีเสียด Acacia catrchue ไม้ยืนต้นสูง 10-15 เมตร แก่นมีฤทธิ์ฝาดสมานเนื่องจากมีสารแทนนิน ตำรับยาไทยใช้แก้ท้องร่วง ใช้ภายนอกรักษาบาดแผลและโรคผิวหนัง ถ้าสับให้แหลกเป็นชิ้นเล็ก ต้มเคี่ยวไฟอ่อนๆ กับน้ำ กรองเคี่ยวต่อ จะได้ยางสีดำ มีลักษณะเหนียว ปั้นเป็นก้อนทิ้งไว้จนแห้งแข็ง เรียกว่าสีเสียดลาว มีรสฝาดมากใช้ปรุงยา หรือใช้ยอมผ้าและฟอกหนังสัตว์
วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556
เราจะอยู่กันอย่างไร..อะไรคือ หนทางของเรา ??
เราจะอยู่กันอย่างไร..อะไรคือ หนทางของเรา ??
ในโลกปัจจุบันที่เราอยู่ในสภาวะเอ่อล้นด้วย (1) สื่อ ช่องทาง และพื้นที่ในการสื่อสาร (abundantly/overflow communication media) (2) ความง่ายในการเข้าถึง (access to media) สื่อ (3)ความง่ายสะดวกและรวดเร็วในการสืื่อสาร แบบ anywhere-anytime communications..ส่งผลให้เกิดสภาวะสืบเนื่องตามมา (consequential effects) คือ (a) เจ้าของสื่อ เจ้าของธุรกิจ และฝ่ายการเมือง ทำการสื่อสารอย่างหนักเพื่อแย่งชิงพื้นที่ทางความคิดของประชาชน (b) ประชาชนทั่วไปมีความสามารถในการทำการสื่อสารมวลชนด้วยตนเองแบบอิสระ (individual mass communication) (c) การปะทะกันทางความคิด ระหว่างเจ้าของธุรกิจ/ฝ่ายการเมือง กับ เจ้าของธุรกิจ/ฝ่ายการเมืองด ระหว่างเจ้าของธุรกิจ/ฝ่ายการเมือง กับ และระหว่างฝ่ายประชาชน ฝ่ายประชาชน กับ ฝ่ายประชาชนด้วยกันเอง..
สภาวะเช่นนี้ ประชาชนจึงมิได้เป็นบุคคลที่มีชีวิตอยุ่อย่างเป็นอิสระที่แท้จริง เพราะอย่างน้อยที่สุด ประชาชนจะได้รับการโน้มน้าวชักจูงใจ หรือกดดัน หรือบีบบังคับ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ (a) เลือกบริโภคอาหารการกินและสิ่งของเครื่องใช้ ของธุรกิจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (b) เลือกเปิดรับ ชื่นชม หลงไหล และตอดตามสื่อรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เลือกที่จะรับ เลือกที่จะมีทัศนคติ เลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะปฏิบัติตาม ความคิด/ค่านิยม/แบบอย่าง/ตัวแบบ/พฤติกรรม ของบุคตล กลุ่มบุคคลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (c) เลือกที่จะปิดรับ ผละหนี ละทิ้ง ปฏิเสธ ต่อต้าน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทุกฝ่าย เพื่อสร้าง "หนทาง" ของตนเอง ผ่านการใช้สื่อสมัยใหม่ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือผ่านรูปแบบทางสังคมแบบทางเลือกชนิดอื่น เช่น กลุ่มสังคม ชุมชนออนไลน์ การรณรงค์เชิงสัญญะ
คำถามที่เราต้องตอบในวันนี้คือ..ประชาชนเ็นอิสะทางความคิดจริงหรือ ประชาชนปลอดจากการโน้มน้าว จูงใจ คุกคาม ครอบงำ ทางความคิดจริงหรือ ? หากไม่จริงประชาชนจะมีหนทางของตนเองอย่างไร ?
"หนทาง" ของประชาชนยังมีอยู่ คือ
(1) เปิดรับอย่างชาญฉลาด (smart receiver)
(2) เรียนรู้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้รู้เท่ารู้ทัน (smart learner)
(3) แยกกันเรียนรู้ ร่วมกันเรียนรู้ สร้างพลังการมีส่วนร่วม (smart participator)
(4) กำหนด "หนทาง" ของตนเอง กลุ่มตนเอง โดยไม่ยอมจำนน ไม่ยอมอยู่ภายใต้การโน้มน้าวชักจูงใจ หรือกดดัน หรือบีบบังคับ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ของฝ่ายธุรกิจ/ฝ่ายกลุ่มผลประโยชร์/ฝ่ายการเมือง (self
"หนทาง" ของตนเอง ต้องยืนบนขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้จริง
(5) พัฒนานวัตกรรมของตนเอง (self innovation development) ทั้งนวัตกรรมทางความคิด นวัตกรรมทางวิชาการ นวัตกรรมสื่อ นวัตกรรมรูปแบบสังคม นวัตกรรมทางเศรษฐกิจ นวัตกรรมทางการเมือง นวัตกรรมสิ่งของเครื่องใช้ และนวัตกรรมรูปแบบวิถีการดำเนินชีวิตภายใตสังใหม่แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
รองศาสตราจารย์ณัฐฐ์วัฒน์ สุทธิโยธิน
16 มิถุนายน 2556
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หากปัจเจกเข้มแข็ง ก็อยู่รอดได้..เป็นหน้าที่ของเราแต่ละคนที่จะต้องชาญฉลาดและเท่าทันในการใช้ชีวิตในยุคสมัยนี้
ตอบลบ